ทนายสงกานต์ ป้อง พระพยอม ลั่นพร้อมร่วมสู้คดีใส่ร้าย พระธัมมชโย



  พระพยอม กัลยาโณ พร้อมสู้คดี หลังถูกศิษย์วัดพระธรรมกายแจ้งความ พูดใส่ร้ายพระธัมมชโย ยันแค่ต้องการเตือนสติคน ให้เลิกงมงายจากการหลอกขายบุญ ด้านทนายดังออกโรงป้อง ไม่ปล่อยให้ พระพยอม สู้ตามลำพังแน่

  จากกรณีลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเข้าแจ้งความต่อ สภ.คลองหลวง หวังเอาผิด พระพิศาลธรรมพาที หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์พูดถึง พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในทำนองก่อให้เกิดความเสียหายนั้น

  ในวันนี้ (7 มิถุนายน 2559) พระพยอม กัลยาโณ ได้เปิดเผยในรายการ เกาะติดข่าวต้นชั่วโมง ทางช่อง Spring News ถึงกรณีข้างต้น ระบุว่า หากทางตำรวจจะดำเนินคดีกับตนจริง ก็ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ เพราะคงมีหลายบุคคลที่โดนข้อกล่าวหาเช่นกัน อาทิ นพ.มโน และ ดร.สมเกียรติ รวมไปถึงประชาชนทั่วไปที่ได้วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้เช่นกัน

  ทั้งนี้สำหรับการออกมาพูดถึงพระธัมมชโย เป็นเพียงการเตือนสติประชาชนให้เลิกงมงายจากการหลอกขายบุญของวัดพระธรรมกาย เท่านั้น แต่หากมีการดำเนินคดีจริง ตนก็จะเดินทางไปต่อสู้คดีด้วยตนเอง

  คืบหน้าล่าสุด ในเฟซบุ๊ก สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ของ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ก็ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ตนในฐานะที่มีความเคารพนับถือ พระพยอม กัลยาโณ และมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากว่า 10 ปี เคยร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบันศาสนามาแล้ว ดังนั้นเมื่อ พระพยอม กัลยาโณ ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามที่เป็นข่าว ตนก็จะไม่ปล่อยให้ท่านต่อสู้ตามลำพังเป็นแน่ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ท่านกระทำเป็นการติชมและแสดงความเห็นโดยสุจริต ซึ่งวิญญูชนโดยทั่วไปสามารถกระทำได้ และเร็ว ๆ นี้ตนก็จะไปพบท่านที่วัดสวนแก้วต่อไป


เครดิต: Kapook.com

เจ้าของบ้านโบราณ ยืนกราน 80 ล้านก็ไม่ขาย หลังถูกขอซื้อเพื่อสร้างคอนโด



   แชร์เพียบ บ้านโบราณอายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ท่ามกลางคอนโดสูง เผยคนสร้างคอนโดขอซื้อ 80 ล้านบาท แต่เจ้าของยืนยันไม่ขาย

   บ้าน...คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่อยู่กับคนเราทุกช่วงชีวิต และเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีความหมาย เมื่อวันเวลาผ่านไปแม้ความเจริญจะเข้าแทรกซึมในหลายพื้นที่ แต่สิ่งที่เรียกว่าบ้าน ยังคงมีค่าให้เก็บรักษาแม้จะมีใครมายื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อก็ตาม

   เช่นเดียวกับบ้านหลังนี้ที่ทาง เฟซบุ๊กเพจ รัตนโกสิเนหา Rattanakosineha ได้เผยแพร่ข้อมูลบ้านหลังหนึ่งจากคุณป้อ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wararat Tumtuti เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2559 โดยเป็นภาพบ้านเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี เป็นทรงตามพิมพ์นิยมในสมัยนั้น ยังคงตั้งตระหง่านแม้ฉากหลังจะถูกปิดทึบด้วยคอนโดสูงเสียดฟ้า


  ทั้งนี้ตามข้อมูลระบุว่า เจ้าของบ้านดังกล่าวได้ปฏิเสธการขายบ้านให้กับผู้สร้างคอนโด (บริเวณ BTS วงเวียนใหญ่) แม้จะมีการเสนอราคาสูงถึง 80 ล้านบาท โดยผู้ดูแลพื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวได้พูดคุยเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ และกล่าวติดตลกว่า "เป็นผม ผมขายตั้งแต่ตอนเสนอ 50 ล้านแล้ว (แล้วก็หัวเราะ เอิ้ก ๆ ๆ)"


เครดิต: Kapook.com

แชร์ว่อน ภาพตำรวจขนดินกลบหลุมถนน-หลังฝนตก อำนวยความสะดวกประชาชน


   ชาวเน็ตแชร์เรื่องราวน่าชื่นชม เมื่อนายตำรวจยศร้อยตำรวจโทลงมือขนดินมากลบหลุมขนาดใหญ่ที่บริเวณถนนแยกปู่เจ้าฯ-สุขุมวิท จากการกัดเซาะของน้ำฝน เพื่อให้รถสัญจรผ่านได้

   วันที่ 3 มิถุนายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพน่าประทับใจของนายตำรวจท่านหนึ่งที่ลงมือขนหิน-ดิน มากลบหลุมขนาดใหญ่บนถนนแยกปู่เจ้าฯ-สุขุมวิท หลังฝนตกหนักกัดเซาะถนน ซึ่งเรื่องราวได้ถูกเผยแพร่โดย เฟซบุ๊ก วันชัย ว่องไชยกุล บอกเล่าเหตุการณ์น่าชื่นชมที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวานนี้ (2 มิถุนายน) พบนายตำรวจยศร้อยตำรวจโทกำลังลงมือขนดินกลบหลุมบนถนนที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝนหลังฝนตกหนัก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถสัญจรผ่านไปได้


   ทั้งนี้เมื่อภาพและเรื่องราวดังกล่าวได้มีการถูกแชร์ต่อ ๆ กันไปยังสื่อออนไลน์ บรรดาชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความเห็นชื่นชมนายตำรวจท่านนี้ ที่ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมและไม่คิดหวังผล 






เครดิต: Kapook.com

สาวโดนตำรวจรวบ หลังแฟนเก่าร้องถูกโทรจิกสัปดาห์เดียว 27,000 สาย !


   สาวแคนาดาถูกตำรวจรวบตัว หลังแฟนเก่าของเธอร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก สัปดาห์เดียวโดนสาวเจ้าโทรจิกรัวกว่า 27,000 ครั้ง แถมยังมีอีเมล ข้อความเสียง ข้อความอักษร จดหมาย รวมอีกมากกว่า 10,000 ฉบับ

   เจออย่างนี้บอกได้คำเดียวว่าจิกยิ่งกว่าไก่ เว็บไซต์ The Coverage มีรายงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2559 ถึงกรณีสุดพิลึกที่สร้างความปั่นป่วนก่อกวนอย่างมาก โดยฝีมือของหญิงวัย 28 ปี นาม เคลลี เมอร์ฟี ชาวรัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ที่ถูกเจ้าหน้าที่เมืองเอ็นมอนตันรวบตัวไว้ หลัง แรนดี้ วิลเลียมส์ แฟนเก่าที่คบกันได้เพียง 2 สัปดาห์ของเธอ ร้องเรียนเข้ามาว่าถูกเคลลีก่อกวนจนแทบเป็นโรคซึมเศร้า หลังในระยะเวลา 1 สัปดาห์หลังเลิกกันไป สาวเจ้ากระหน่ำโทรศัพท์หาเขาทั้งทางมือถือ โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์ที่ทำงาน รวมแล้ว 27,639 สาย และยังมีอีเมลอีก 937 ฉบับ, 11,229 ข้อความตัวอักษร, 117 ข้อความเสียง และจดหมายอีก 47 ฉบับด้วยกัน

   เคลลี ซึ่งมีประวัติป่วยด้วยโรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive compulsive behavior) ถูกฝ่ายเจ้าทุกข์กล่าวหาว่า เธอใช้โทรศัพท์พร้อม ๆ กันถึง 8 เครื่อง เพื่อโทรหาอดีตแฟนหนุ่มซ้ำ ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ดูราวกับเธอคงจะโด๊ปยาชูกำลังเพื่อให้มีเรี่ยวแรงได้แบบไม่หลับไม่นอน

   ด้านทนายของแรนดี้ เผยว่า ตัวชายหนุ่มเองรู้สึกโล่งใจมากเมื่อทราบว่าเธอถูกควบคุมตัวไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาต้องการให้เคลลีได้รับมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือการรักษาที่ถูกต้อง และทำอย่างไรก็ได้ที่จะกันไม่ให้เธอเข้าใกล้แรนดี้อีกนับจากนี้ไป

   สำหรับการไต่สวนเรื่องดังกล่าว ศาลให้นางสาวเคลลีต้องรับการประเมินสุขภาพจิตจากผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน จึงจะพิจารณาจะดำเนินการทางกฎหมายใด ๆ กับเธอต่อหรือไม่

เครดิต: Kapook.com

ซ้ำซาก เด็กร่วงรถตู้ที่แม่สอด ชาวเน็ตซัดควรจัดระเบียบ-ลงโทษจริงจัง



   โลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอ เด็กนักเรียนหญิงตกรถตู้รับ-ส่ง ขณะเลี้ยวที่กลับรถใน อ.แม่สอด ชาวเน็ตแนะควรจัดระเบียบ-ลงโทษขั้นเด็ดขาด เพราะนี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก

   วันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอที่ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ใจคอไม่ดี โพสต์โดย เฟซบุ๊ก Wanlop Pothiratt เมื่ออยู่ ๆ เด็กนักเรียนหญิงร่วงลงจากรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ขณะรถเข้าโค้งเพื่อกลับรถบริเวณจุดกลับรถ ปตท.เมย อ.แม่สอด จ.ตาก

   ด้านชาวเน็ตเมื่อได้รับชมคลิปวิดีโอ ก็พากันมาคอมเม้นท์ต่าง ๆ นานา แต่ส่วนใหญ่ตำหนิคนขับรถตู้ที่ไม่รอบคอบและประมาทเกินไป พร้อมทั้งขอให้มีการเข้มงวดหรือมีบทลงโทษกับเหตุการณ์ลักษณะนี้อย่างจริงจังเด็ดขาดมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก

คลิปเหตุการณ์


เครดิต: Kapook.com

เทพพิทักษ์ แอสละ เปิดที่มาของสไตล์เฉพาะตัว พร้อมเผยสเปคสาวในฝัน



   เทพพิทักษ์ แอสละ กับตัวตนของเขาคนนี้ ยันแม้ดังแล้วก็ไม่หยิ่ง แม้ได้เล่นหนังก็ยังขอทำงานขับรถต่อไป พร้อมเปิดที่มาของสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ และสเปคสาวในฝัน

   เป็นเน็ตไอดอลคนดังที่คงไม่มีใครไม่รู้จักในเวลานี้ สำหรับ เทพพิทักษ์ แอสละ หนุ่มหน้าขาวปากแดง ผู้มีสไตล์เป็นของตัวเอง ซึ่งเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ทางรายการ แรงชัดจัดเต็ม ช่อง BRIGHT TV ก็ได้เชิญเขาคนนี้มาร่วมโชว์ความน่ารักและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ให้แฟน ๆ ได้รู้จักกันอีกครั้ง ซึ่งต้องบอกเลยว่ากว่าจะเชิญหนุ่มคิวทองคนนี้มาร่วมรายการได้ ต้องใช้เวลานานถึง 2 เดือนเลยทีเดียว

  โดย เทพพิทักษ์ แอสละ เปิดเผยว่า ตัวเขาเองนั้นเป็นคนจังหวัดลพบุรี ตอนนี้อายุ 32 ปีแล้ว ส่วนนามสกุล แอสละ ก็เป็นนามสกุลจากพ่อ-แม่ที่เป็นคนภาคอีสาน พ่อของเขามาทำงานเป็นทหารที่ลพบุรี จนเมื่อพ่อเสียชีวิตแม่ก็เดินทางกลับภาคอีสานไป ส่วนตัวเขาเองก็มาหางานทำแถวกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานบริษัท แต่รู้สึกเบื่อจึงออกมารับจ้างขับรถ ตอนนี้ก็ทำงานขับรถเป็นหลัก ขับได้หมดทั้งรถกระบะ 6 ล้อ หรือแม้แต่ 10 ล้อ


   นอกจากนี้ เทพพิทักษ์ ยังได้เผยถึงการแต่งตัวที่โดดเด่นของเขาด้วย โดยชี้ว่าการทำสีผม การทาหน้าขาว เขียนคิ้วเข้ม และทาปากแดง เป็นการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยเห็นแม่ที่เป็นช่างเสริมสวยแต่งให้ลูกค้ามาก่อน จึงจำมาแต่งหน้าเอง แม้แต่ซอยผมเขาก็ยังทำได้

   และสำหรับการพกหวีขึ้น มาหวีผมตลอดจนที่เป็นคุ้นตาของทุกคนนั้น เทพพิทักษ์ เผยว่า ที่ต้องพกหวีนั้นก็เป็นความเคยชินของเขาเอง เขาชอบจับผมเพราะเดิน ๆ ไปแล้วผมชอบปลิว เนื่องจากผมเสีย ส่วนหนึ่งก็เพราะชอบเปลี่ยนสีผม โดยสีล่าสุดเพิ่งทำมาตอนปีใหม่ เมื่อก่อนทำสีโทนเชอร์รีพิงก์ เคยทำสีผมจนโดนพ่อเอากระทะขว้างใส่มารอบหนึ่งแล้วด้วย

   ถ้าจะถามถึงแรงบันดาลใจในการทำสีผมนั้น เทพพิทักษ์ เผยว่า "ก็นั่งอยู่เฉย ๆ มองหน้าแล้วผมเราดำ ก็ลองทำดูว่ามันจะเป็นแบบไหน"

   ในส่วนของทรงผมนั้น ก็เป็นสไตล์ของเขาเอง ต้องบอกว่าตัวเองเป็นคนไม่ชอบตัดผม เข้าร้านตัดผมแล้วร้องไห้ เมื่อก่อนเคยไว้ยาวแต่ก็ต้องเข้าร้านไปทำผม ต้องยืด ต้องหนีบ พอสักพักก็คิดว่าเอาแค่นี้พอ ซอยเอาดีกว่า ก่อนหน้านี้ก็เข้าร้านทำผมประจำ แต่เดี๋ยวนี้มันแพง ต้องใช้เงินเยอะเลยต้องลดค่าใช้จ่ายตรงนี้


   หนุ่มคนนี้ยังเผยว่า เขาเป็นคนชอบแต่งตัว ผู้หญิงบางคนยังต้องอายกับเครื่องสำอางของเขาที่พกมาเพียบ ก็เคยมีที่ลุง ๆ ในที่ทำงานมาทักว่าเขาเป็นตุ๊ดหรือเป็นผู้ชาย เขาก็หัวเราะแล้วก็ตอบไปว่า "ลุงแหม ผมก็อยากแต่งตัวเน้อะ" ก็เรียกเสียงหัวเราะกันไป ทั้งนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่าตัวเขานั้นเป็นผู้ชายแท้ ๆ หากใครเห็นว่าเขาเหมือนตุ๊ด ก็อยากให้มาลองเจอตัวจริงกันนอกกล้องหน่อย มาคุยกันแล้วก็จะได้รู้ว่าเป็นผู้ชายจริงหรือไม่

   เทพพิทักษ์ ยังเล่าว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยมีแฟน แต่ตอนนี้มีแค่แฟนคลับ สำหรับสเปคสาวที่ชอบนั้น ก็ไม่ต้องสวยมาก ขอพอดี ๆ ไปด้วยกันง่ายก็พอ แต่ก่อนจีบคนสวยแต่ก็ไม่มีใครชอบเขาเลย แต่พอเขาเป็นแบบนี้มีคนสวย ๆ มาทักกันเต็มเฟซบุ๊ก แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าสวยจริงหรือเปล่า

   นอกจากนี้ เทพพิทักษ์ ยังอยากฝากถึงทุก ๆ คนด้วยว่า "ฝากเรื่องการใช้เฟซนะครับ ผมขอให้เล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เล่นเพื่อความสนุก เหนื่อยจากงานเรารีแล็กซ์ ดูแล้วไม่เครียด แต่เรื่องคอมเม้นท์แรง ๆ ก็ต้องแล้วแต่ความคิด แต่ก็ขอให้มันเบา ๆ ดีกว่า เน้นสนุกดีกว่า บันเทิงดีกว่า"

   ทั้งนี้หลังจากโด่งดังในโลกออนไลน์แล้ว ล่าสุด เทพพิทักษ์ ก็ได้เซ็นสัญญาเข้าสู่วงการบันเทิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเซ็นสัญญากับ พชร์ อานนท์ (พจน์ อานนท์) เป็นเวลา 5 ปี ตอนนี้ก็ได้เล่นหนังเรื่อง 888 เร็วทะลุนรก และมีงานรีวิวสินค้าในเฟซบุ๊ก แต่ยืนยันว่าแม้จะดังแล้วแต่ก็ยังไม่หยิ่ง ยังเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย คำว่าดังเป็นยังไงเขาก็ยังไม่รู้ ช่วงแรก ๆ มีคนมาบอกว่าเขาเป็นเน็ตไอดอลแล้ว เน็ตไอดอลคืออะไรเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ยังทำงานขับรถอยู่เหมือนเดิมเพราะไม่อยากมานอนรอเงินในเวลาที่ไม่มีงาน


   ในส่วนของการถ่ายทำนั้น ก็ต้องบอกว่าตื่นเต้นมาก เพราะเขาไม่ใช่นักแสดง แต่พี่พชร์ก็ให้แสดงเป็นคาแรคเตอร์ของตัวเองไป นอกจากนี้พี่พชร์ยังให้น้ำหอมมาด้วย สั่งมาว่าให้ฉีดเยอะ ๆ ก็เลยฉีดเข้าไปเต็มที่ "ปกติใช้สารส้ม น้ำหอมพี่พชร์ให้ผมมา แต่ผมใช้แล้วเวียนหัว นึกว่าเมารถ ที่ไหนได้เมาน้ำหอม"

  ขณะที่คุณแม่ ของ เทพพิทักษ์ ก็ได้สอนลูกชายหลังเริ่มมีชื่อเสียงว่า ให้ดูแลตัวเองด้วย อ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ ให้ยกมือไหว้ ทำตามแบบที่เคยทำมา

   ทั้งนี้ขอฝาก ถึงแฟนคลับว่า "ฝากเป็นกำลังใจให้เทพด้วยนะ ก็เพิ่งเข้ามา มายังไงก็ไม่รู้ งงเลยครับ ก็ขอกำลังใจหน่อยครับ มีรายการ มีถ่ายหนังเรื่อง 888 เร็วทะลุนรก ก็เชิญเพื่อน ๆ มาดูกันหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ"



เครดิต: Kapook.com

ศิลป์หรือเสื่อม หนุ่มสาวจีนติสต์แตกตระเวนแก้ผ้าถ่ายภาพทั่วเมือง



   คู่รักติสต์แตกตระเวนแก้ผ้าถ่ายรูปทั่วเมืองต้าหลี่ โพสต์อวดในโซเชียล ตำรวจตามเร่งตามหาตัวฐานก่อเหตุอนาจาร ด้านชาวเน็ตเสียงแตก บ้างบอกให้เปิดใจกว้าง ก็แค่งานศิลป์รูปแบบหนึ่ง

   เส้นคั่นระหว่างศิลปะกับอนาจารบางทีก็บางเสียจนแยกจากกันไม่ออก เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยภาพชวนตะลึงลูกตาของหนุ่มสาวชาวจีนคู่หนึ่ง ที่ตระเวนแก้ผ้าทั้งแบบครึ่งตัวและล่อนจ้อน ถ่ายรูปตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน บาร์ โรงแรม หรือกลางถนน ซึ่งรูปเซตดังกล่าวถูกโพสต์ลงในเว่ยป๋อแพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งสุดฮิตของชาวจีน และจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงขึ้นมาทันที จนทำให้ในเวลาต่อมามีเจ้าของภาพได้ลบรูปออกไป

   ผู้คนจำนวนมากแสดงความคิดเห็นว่า การกระทำเช่นนี้ช่างไร้ยางอายสิ้นดี มันอนาจาร และสร้างความเสื่อมเสียให้กับเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพที่ไปแก้ผ้าถ่ายอยู่หน้าประตูโรงเรียน และจากกระแสตำหนิดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าทีตำรวจเมืองต้าหลี่สั่งตามหาตัวสองหนุ่มสาวที่อยู่ในภาพแล้ว ขณะที่เจ้าของเว่ยป๋อดังกล่าวได้เปลี่ยนโลเคชั่นที่อยู่ตัวเองจากเมืองเฉิง ตู มณฑลเสฉวน ไปเป็นกรุ่งปักกิ่งแทน


   อย่างไรก็ดี ยังมีฝ่ายที่มองว่าภาพเหล่านี้ไม่เห็นรุนแรงอะไร อยากให้เปิดใจกว้างมองมันดู ก็เป็นศิลปะรูปแบบหนึ่งเท่านั้นเอง แถมรูปเหล่านี้ก็ถ่ายตอนกลางคืน ไม่เห็นมีคนอื่นอื่น ๆ ถูกถ่ายติดเข้ามาในภาพเลยด้วยซ้ำ




เครดิต: Kapook.com