เทพพิทักษ์ แอสละ เปิดที่มาของสไตล์เฉพาะตัว พร้อมเผยสเปคสาวในฝัน



   เทพพิทักษ์ แอสละ กับตัวตนของเขาคนนี้ ยันแม้ดังแล้วก็ไม่หยิ่ง แม้ได้เล่นหนังก็ยังขอทำงานขับรถต่อไป พร้อมเปิดที่มาของสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ และสเปคสาวในฝัน

   เป็นเน็ตไอดอลคนดังที่คงไม่มีใครไม่รู้จักในเวลานี้ สำหรับ เทพพิทักษ์ แอสละ หนุ่มหน้าขาวปากแดง ผู้มีสไตล์เป็นของตัวเอง ซึ่งเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ทางรายการ แรงชัดจัดเต็ม ช่อง BRIGHT TV ก็ได้เชิญเขาคนนี้มาร่วมโชว์ความน่ารักและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ให้แฟน ๆ ได้รู้จักกันอีกครั้ง ซึ่งต้องบอกเลยว่ากว่าจะเชิญหนุ่มคิวทองคนนี้มาร่วมรายการได้ ต้องใช้เวลานานถึง 2 เดือนเลยทีเดียว

  โดย เทพพิทักษ์ แอสละ เปิดเผยว่า ตัวเขาเองนั้นเป็นคนจังหวัดลพบุรี ตอนนี้อายุ 32 ปีแล้ว ส่วนนามสกุล แอสละ ก็เป็นนามสกุลจากพ่อ-แม่ที่เป็นคนภาคอีสาน พ่อของเขามาทำงานเป็นทหารที่ลพบุรี จนเมื่อพ่อเสียชีวิตแม่ก็เดินทางกลับภาคอีสานไป ส่วนตัวเขาเองก็มาหางานทำแถวกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานบริษัท แต่รู้สึกเบื่อจึงออกมารับจ้างขับรถ ตอนนี้ก็ทำงานขับรถเป็นหลัก ขับได้หมดทั้งรถกระบะ 6 ล้อ หรือแม้แต่ 10 ล้อ


   นอกจากนี้ เทพพิทักษ์ ยังได้เผยถึงการแต่งตัวที่โดดเด่นของเขาด้วย โดยชี้ว่าการทำสีผม การทาหน้าขาว เขียนคิ้วเข้ม และทาปากแดง เป็นการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยเห็นแม่ที่เป็นช่างเสริมสวยแต่งให้ลูกค้ามาก่อน จึงจำมาแต่งหน้าเอง แม้แต่ซอยผมเขาก็ยังทำได้

   และสำหรับการพกหวีขึ้น มาหวีผมตลอดจนที่เป็นคุ้นตาของทุกคนนั้น เทพพิทักษ์ เผยว่า ที่ต้องพกหวีนั้นก็เป็นความเคยชินของเขาเอง เขาชอบจับผมเพราะเดิน ๆ ไปแล้วผมชอบปลิว เนื่องจากผมเสีย ส่วนหนึ่งก็เพราะชอบเปลี่ยนสีผม โดยสีล่าสุดเพิ่งทำมาตอนปีใหม่ เมื่อก่อนทำสีโทนเชอร์รีพิงก์ เคยทำสีผมจนโดนพ่อเอากระทะขว้างใส่มารอบหนึ่งแล้วด้วย

   ถ้าจะถามถึงแรงบันดาลใจในการทำสีผมนั้น เทพพิทักษ์ เผยว่า "ก็นั่งอยู่เฉย ๆ มองหน้าแล้วผมเราดำ ก็ลองทำดูว่ามันจะเป็นแบบไหน"

   ในส่วนของทรงผมนั้น ก็เป็นสไตล์ของเขาเอง ต้องบอกว่าตัวเองเป็นคนไม่ชอบตัดผม เข้าร้านตัดผมแล้วร้องไห้ เมื่อก่อนเคยไว้ยาวแต่ก็ต้องเข้าร้านไปทำผม ต้องยืด ต้องหนีบ พอสักพักก็คิดว่าเอาแค่นี้พอ ซอยเอาดีกว่า ก่อนหน้านี้ก็เข้าร้านทำผมประจำ แต่เดี๋ยวนี้มันแพง ต้องใช้เงินเยอะเลยต้องลดค่าใช้จ่ายตรงนี้


   หนุ่มคนนี้ยังเผยว่า เขาเป็นคนชอบแต่งตัว ผู้หญิงบางคนยังต้องอายกับเครื่องสำอางของเขาที่พกมาเพียบ ก็เคยมีที่ลุง ๆ ในที่ทำงานมาทักว่าเขาเป็นตุ๊ดหรือเป็นผู้ชาย เขาก็หัวเราะแล้วก็ตอบไปว่า "ลุงแหม ผมก็อยากแต่งตัวเน้อะ" ก็เรียกเสียงหัวเราะกันไป ทั้งนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่าตัวเขานั้นเป็นผู้ชายแท้ ๆ หากใครเห็นว่าเขาเหมือนตุ๊ด ก็อยากให้มาลองเจอตัวจริงกันนอกกล้องหน่อย มาคุยกันแล้วก็จะได้รู้ว่าเป็นผู้ชายจริงหรือไม่

   เทพพิทักษ์ ยังเล่าว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยมีแฟน แต่ตอนนี้มีแค่แฟนคลับ สำหรับสเปคสาวที่ชอบนั้น ก็ไม่ต้องสวยมาก ขอพอดี ๆ ไปด้วยกันง่ายก็พอ แต่ก่อนจีบคนสวยแต่ก็ไม่มีใครชอบเขาเลย แต่พอเขาเป็นแบบนี้มีคนสวย ๆ มาทักกันเต็มเฟซบุ๊ก แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าสวยจริงหรือเปล่า

   นอกจากนี้ เทพพิทักษ์ ยังอยากฝากถึงทุก ๆ คนด้วยว่า "ฝากเรื่องการใช้เฟซนะครับ ผมขอให้เล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เล่นเพื่อความสนุก เหนื่อยจากงานเรารีแล็กซ์ ดูแล้วไม่เครียด แต่เรื่องคอมเม้นท์แรง ๆ ก็ต้องแล้วแต่ความคิด แต่ก็ขอให้มันเบา ๆ ดีกว่า เน้นสนุกดีกว่า บันเทิงดีกว่า"

   ทั้งนี้หลังจากโด่งดังในโลกออนไลน์แล้ว ล่าสุด เทพพิทักษ์ ก็ได้เซ็นสัญญาเข้าสู่วงการบันเทิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเซ็นสัญญากับ พชร์ อานนท์ (พจน์ อานนท์) เป็นเวลา 5 ปี ตอนนี้ก็ได้เล่นหนังเรื่อง 888 เร็วทะลุนรก และมีงานรีวิวสินค้าในเฟซบุ๊ก แต่ยืนยันว่าแม้จะดังแล้วแต่ก็ยังไม่หยิ่ง ยังเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย คำว่าดังเป็นยังไงเขาก็ยังไม่รู้ ช่วงแรก ๆ มีคนมาบอกว่าเขาเป็นเน็ตไอดอลแล้ว เน็ตไอดอลคืออะไรเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ยังทำงานขับรถอยู่เหมือนเดิมเพราะไม่อยากมานอนรอเงินในเวลาที่ไม่มีงาน


   ในส่วนของการถ่ายทำนั้น ก็ต้องบอกว่าตื่นเต้นมาก เพราะเขาไม่ใช่นักแสดง แต่พี่พชร์ก็ให้แสดงเป็นคาแรคเตอร์ของตัวเองไป นอกจากนี้พี่พชร์ยังให้น้ำหอมมาด้วย สั่งมาว่าให้ฉีดเยอะ ๆ ก็เลยฉีดเข้าไปเต็มที่ "ปกติใช้สารส้ม น้ำหอมพี่พชร์ให้ผมมา แต่ผมใช้แล้วเวียนหัว นึกว่าเมารถ ที่ไหนได้เมาน้ำหอม"

  ขณะที่คุณแม่ ของ เทพพิทักษ์ ก็ได้สอนลูกชายหลังเริ่มมีชื่อเสียงว่า ให้ดูแลตัวเองด้วย อ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ ให้ยกมือไหว้ ทำตามแบบที่เคยทำมา

   ทั้งนี้ขอฝาก ถึงแฟนคลับว่า "ฝากเป็นกำลังใจให้เทพด้วยนะ ก็เพิ่งเข้ามา มายังไงก็ไม่รู้ งงเลยครับ ก็ขอกำลังใจหน่อยครับ มีรายการ มีถ่ายหนังเรื่อง 888 เร็วทะลุนรก ก็เชิญเพื่อน ๆ มาดูกันหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ"



เครดิต: Kapook.com